วันอังคารที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559

หลายคนมักจะอยากรู้ว่าอาหารอะไรที่เหมาะสมสำหรับการกินเพื่อดูแลอาการเกาต์ วันนี้ผมเอา


สุดยอดอาหาร 5 อย่างที่ดีที่สุดสำหรับคนเป็นเกาต์ จากคนที่เคยปวดเกาต์มาเป็น 100 ครั้งแต่ตอนนี้หายแล้วมาฝากกันครับว่าเค้ากินอะไรบ้าง

1.Bananas กล้วย
2.Apples แอปเปิ้ล
3.Carrots แครอท
4.Celery คื่นช่าย
5.Broccoli บล็อคโคลี่

คำถามคือ
ทำไมพวกมันถึงเป็นสุดยอดอาหาร 5 อย่าง?

คำตอบคือ
เพราะว่าพวกมัน "ง่าย"

"หาง่าย, ซื้อง่าย, เอาไปกินง่าย"
และพวกมันมีความเป็นด่างสูงมาก

ด้วยวิธีง่ายๆ คุณก็เดินไปซื้อที่ร้านขายของ ซื้อพวกมันแบบปลอดสาร และ เป็นออแกนนิก ล้างให้สะอาด แล้วเอามากินเป็นอาหาร พร้อมกับ นม หรือ โยเกิร์ต อัลมอนด์และเม็ดมะม่วงหิมมะพาน ข้าวกล้องหรือข้าวสีน้ำตาล เพราะในข้าวกล้องถ้าหุงอย่างถูกวิธีจะมีเอนไซม์ตัวดีที่ช่วยลดกรดยูริกที่เกิดจากการย่อยสารพิวรีนในร่างกายได้อีกด้วย

ด้วยวิธีง่ายๆแบบนี้ กับอาหารง่ายๆ แบบนี้จะช่วยให้คุณหายจากอาการปวดเกาต์และไม่กลับมาเป็นอีกได้ครับ

วันนี้ขอส่งท้ายด้วยคำพูดของบิดาแห่งการแพทย์
ท่านคือ Hippocretes ฮิปโปเครติส "ผู้ให้กำเนิดวิชาแพทย์"



Let food be thy medicine, thy medicine shall be thy food.
จงใช้อาหารเป็นยา ยาของเธอจะเป็นอาหารของเธอ

Hippocrates


ปวดเกาต์คิดถึงเรา
Goutgarden
www.facebook.com/goutgarden
www.goutgarden.com
www.goutgarden.blogspot.com
Line@: @goutgarden
Tel:0802372228, 0825221116

วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559

เกาต์ เจ้าวายร้าย (2)


เรามาคุยกันต่อจากครั้งที่แล้วซึ่งคนที่เป็นเกาต์ทั้งๆที่รู้ว่าควรดูแลเรื่องการกินแต่ทำไมถึงยังห้ามใจตัวเองไม่ได้จนอาการปวดเกาต์กำเริบ เรามาหาคำตอบกันต่อครับ
บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องของแนวคิดในการเป็นเกาต์ โดย Hemen Ee
นี่อาจจะเป็นกลไกการทำงานทางจิตวิทยาของการเป็นมนุษย์ เราจำเป็นต้องมีความเจ็บปวดอย่างทรมานเพื่อมาหยุดยั้งเรา จากการลุ่มหลงดื่มด่ำไปในความสุข ซึ่งในกรณีนี้มันคือ การถูกล่อหลอกไปด้วยอาหารรสเลิศ มันมีเหตุผลแค่ 2 อย่างที่ผลักดันให้เราทำสิ่งต่างๆ ถ้าเราไม่ทำไปเพราะความอยากที่จะมีความสุข เราก็จะทำไปเพื่อที่จะหลีกเลี่ยงความทุกข์หรือความเจ็บปวด
ชีวิตของเราในปัจจุบันเพียบพร้อมไปด้วยอาหารเลิศรสหลากหลายชนิด การถูกล่อลวงและดึงดูดใจไปด้วยอาหารเลิศรสเหล่านี้จะเกิดขึ้นอยู่เสมอโดยเฉพาะเมื่ออาการปวดเกาต์ยังไม่มาเยือน เรามักจะทึกทักเอาเองว่าเราจะกินอะไรก็ได้โดยที่ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมา
บ่อยครั้งที่คนเป็นเกาต์มีแนวโน้มที่จะมีชีวิตอยู่ด้วยความรู้สึกผิด บางคนที่อาการปวดเกาต์กำเริบก็รู้สึกผิดกับอาหารที่เขาได้กินไปเมื่อวานนี้ และในสถานการณ์แบบนี้มันก็จะกลายเป็นโรคที่ "เรื้อรังและรุนแรง" พวกเขารู้สึกผิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและการกินอาหารแบบนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
สิ่งที่นำไปสู่ปัญหาของอาการปวดเกาต์นั่นคือ "ความไม่รู้" ซึ่งจะทำให้พวกเขายังคงดูแลรักษาเกาต์เหมือนกับเป็น "โรค" พวกเขาจะคิดว่าพวกเขาเป็น"โรค" โดยฉับพลันเหมือนกับอาการติดเชื้ออื่นๆ ซึ่งจะทำให้เขารักษาด้วยการใช้ยาหรือการฉีดยา พวกเขาจะต้องพึ่งพายาไปตลอดชีวิตของเค้า แต่จะต้องตกอยู่ภายใต้เงาของ "เกาต์เจ้าวายร้าย"
ยิ่งคุณยอมรับความจริงนี้ได้เร็วมากเท่าไหร่คุณก็จะออกจากฝันร้ายได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น
จบลงแล้วครับกับบทความ "เกาต์ เจ้าวายร้าย (1) และ (2) ขอให้ลองคิดดูให้ดีครับ ว่าคุณดูแลรักษาเกาต์เหมือนเป็น "โรค" หรือเป็น "วิถีชีวิต" ซึ่งนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ คุณคิดแบบไหนการดูแลรักษาเกาต์ของคุณก็จะออกมาในรูปแบบแตกต่างกัน ผลลัพธ์ก็จะแตกต่างกันด้วย
"โรค" --> กินยา --> มีผลข้างเคียง
(ตับ, ไต, กระเพาะ, ฯลฯ)
"วิถีชีวิต" --> แก้ที่ต้นเหตุ --> สมดุลย์อาหาร --> สุขภาพดีโดยองค์รวม
(หายเป็นเกาต์ ไม่มีผลข้างเคียง)
ผมหวังว่าคุณจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดกับชีวิตของคุณตลอดไป ไม่ใช่เพียงแค่ให้หายเจ็บ หายปวดไปชั่วครั้งชั่วคราว แต่ส่งผลร้ายในระยะยาวขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ
"ปวดเกาต์คิดถึงเรา" Gout Garden
www.facebook.com/goutgarden
www.goutgarden.com
www.goutgarden.blogspot.com
Line:goutgarden
Tel:0802372228, 0825221116
อาการโรคเก๊า, เก๊า

วันเสาร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2559

เกาต์ เจ้าวายร้าย (1)


คุณรู้ไหมว่าโรคเกาต์เกิดจากอะไร แล้วทำไมคนที่เป็นต้องทนทุกข์ทรมานซ้ำซากกับอาการปวดเกาต์ วันนี้เรามารู้จักกันว่า โรคเกาต์คืออะไร มีสาเหตุ และ วิธีรักษาให้หายขาดทำอย่างไร

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องของแนวคิดในการรักษาเกาต์ โดย Hemen Ee 

วันนี้จะขอพูดให้เข้าใจกันง่ายๆนะครับว่า โรคเกาต์เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปและพิสูจน์แล้วว่ามันคือการมี Hyperuricemia (คือระดับกรดยูริกในเลือดสูง) และตกผลึกเป็นหนามแหลมไปทิ่มอยู่ตามข้อต่อและเนื้อเยื่อ เช่น ข้อนิ้วโป้งเท้า และข้อต่ออื่นๆ

โรคเกาต์ส่งผลโดยตรงมาจาก "อาหารที่คนกินสะสมในช่วงหลายปี" พวกอาหารที่มีโปรตีนสูงและเต็มไปด้วยพิวรีน ทั้งเนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์ พืชผักบางชนิด แอลกอฮอล ฯลฯ ซึ่งจะเข้าไปเพิ่มการผลิตกรดยูริกในร่างกาย เมื่อเลือดมีกรดยูริกมาก ระบายออกไม่ทันจนตกผลึกเป็นหนามแหลมทิ่มแทงตามข้อต่อและเนื้อเยื่อก็เกิดการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน ทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดเกาต์ 

โรคเกาต์ โดยทั่วไปจะมีคนบอกคุณว่าวิธีเดียวที่จะรักษาและบรรเทาอาการโรคเกาต์คือการใช้ยาและยาแก้ปวด แต่ผมไม่เห็นด้วย - มีวิธีธรรมชาติเพื่อบรรเทารักษาและป้องกันไม่ให้ตกอยู่ในสภาพที่ทนทุกข์ทรมานกับอาการเกต์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และคุณรู้หรือไม่ว่าการใช้ยารักษาอาการเกาต์อาจมีผลข้างเคียงร้ายกาจจนถึงขั้นทำให้คนกระเพาะทะลุ ไตวายต้องล้างไตตลอดชีวิต ผิวหนังไหม้เกรียมทั้งตัวจากการแพ้ยา จนจบลงด้วยการเสียชีวิตอย่างทุกข์ทรมาน 

มันสำคัญนะที่คุณจะต้อง รักษาความสมดุลย์ในการกินอาหารเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ร่างกายมีสภาพความเป็นกรดมากจนเกินไปจนทำให้อาการปวดเกาต์กำเริบ แต่ในความเป็นจริงคนที่เป็นโรคเกาต์จะตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสมดุลย์ของการกินอาหาร ก็หลังจากที่อาการปวดเกาต์ได้กำเริบ ปวด บวม แดง ร้อน ขึ้นมา จนปวดเกาต์บ่อยขึ้นและอาการปวดรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 เรื่องราวแบบนี้ คุ้นๆว่าเคยเกิดขึ้นกับคุณ หรือคนที่เป็นเกาต์ที่คุณพยายามดูแลเค้าบ้างไหมครับ ทั้งๆ ที่รู้ว่าควรดูแลเรื่องการกินอาหาร อาการปวดเกาต์จะได้ไม่กำเริบ แต่ทำไมถึงทำไม่ได้ น่าสนใจมาก เอาไว้เรามาคุยกันในครั้งต่อไป เป็นกำลังใจให้ทุกคนหายจากการปวดเกาต์ครับ

 "ปวดเกาต์คิดถึงเรา" Gout Garden

www.facebook.com/goutgarden
www.goutgarden.com
www.goutgarden.blogspot.com
Line:goutgarden
Tel:0802372228, 0825221116

อาการโรคเก๊า, เก๊า

วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2559

"โรคของราชา" ชื่อเล่นของโรคเกาต์


  - ภาพของกษัตริย์เฮนรี่ที่ 8


มีคำกล่าวกันว่า โรคเกาต์ เป็นโรคของคนรวย คนมีอันจะกิน วันนี้มาเบาๆสมองกันดูนะครับ คุณรู้มั้ยว่าทำไมโรคเกาต์ถึงถูกขนานนามแบบนี้

โรคเกาต์เป็นโรคที่ซับซ้อน ที่กลายเป็นที่แพร่หลายในสหรัฐอเมริกาและประเทศที่พัฒนาแล้วหลายๆ ประเทศ ชาวอเมริกันเกือบ 2-5 ล้านคนทนทุกข์ทรมานจากการปวดเกาต์ ส่วนมาก 90% ของคนที่เป็นเกาต์จะเป็นผู้ชาย และ จำนวนของคนที่เริ่มเป็นโรคนี้ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆทั่วโลก

โรคเกาต์ "โรคของราชา" - นี่เป็นชื่อเล่นของโรคเกาต์ โรคที่มักจะเกิดกับชนชั้นสูง (ในอดีต)

 1. กษัตริย์เฮนรี่ที่8 viii ของอังกฤษ (1491-1547) เป็นที่รู้จักกันว่าท่านได้รับความเดือดร้อนทรมานจากโรคเกาต์ ท่านเป็นคนอ้วนและมักจะมีภาพที่ท่านถือก้อนเนื้อสัตว์หรือแก้วไวน์

2.Alexander the Great (พศ. 187-220) กษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราชเป็นผู้สร้างจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคโบราณ

3.Michelangelo (1475-1564) เป็นจิตรกรสถาปนิกและประติมากรชื่อดังในช่วงยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการหรือยุคเรเนซ้องค์ เค้าสร้างประติมากรรมรูปสลักเดวิดจากหินอ่อน เขียนภาพระดับโลกไว้มากมายเช่นคำพิพากษาสุดท้าย (The last Judgement)


4.นอส ตราดามุส (1503-1566) เป็นชาวฝรั่งเศสซึ่งเป็นเภสัชกรและหมอดูที่มีชื่อเสียง

5.คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (1451-1506) พลเรือเอกแห่งน่านน้ำมหาสมุทร เขาได้เดินเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกและทำให้ชาวยุโรปรู้จักทวีปอเมริกา

6.เซอร์ไอแซกนิวตัน (1642-1725) นักฟิสิกส์ นักคณิตศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักปรัชญาชาวอังกฤษมีชื่อเสียงโด่งดังมากเรื่องของกฏแรงโน้มถ่วงสากลและกฏการเคลื่อนที่ของนิวตัน

7.เลโอนาร์โดดาวินชี (1512-1515) เป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีความสามารถหลากหลายเป็นทั้งสถาปนิก นักดนตรี นักกายวิภาคศาตร์ นักประดิษฐ์ วิศวะกร ประติมากร นักเรขาคณิต นักวาดภาพ นักดาราศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ มีงานศิลปะที่มีชื่อเสียงหลายชิ้น เช่น พระกายาหารมื้อสุดท้าย และโมนาลิซ่า

8. ลุดวิกฟาน เบโธเฟน (1770-1827) เป็นคีตกะวีและนักเปียโนชาวเยอรมันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของโลกเป็นอัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียมทาน ผลงานเช่น ซิมโฟนี่หมายเลข 5 ซิมโฟนี่หมายเลข 6 คอนแชร์โต้หมายเลข 4

9.เบนจามินแฟรงคลิน (1706-1790) เป็นช่างพิมพ์ นักเขียน นักปรัชญา นักการเมือง นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ นักปฏิรูปและนักการทูตของสหรัฐอเมริกา ผลงานสำคัญคือคิดค้นสายล่อฟ้า

10.ชาร์ลส์ ดิคเก้นยังตกเป็นเหยื่อโรคนี้ (1812-1870) นักเขียนผู้มีชื่อเสียงชาวอังกฤษ

น่าเศร้าที่จำนวนของคนที่ได้รับการวินิจฉัยโรคเกาต์ในปัจจุบันมีการเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และทุกคนสามารถได้รับผลกระทบจากโรคไม่ว่าคุณจะมีเชื้อสายในตระกูลชั้นสูงหรือไม่ก็ตาม

วันนี้ที่เอาเรื่องของคนชั้นสูงและคนสำคัญมาให้ได้อ่านกันไม่ใช่เพื่อจะให้คุณได้ภาคภูมิใจว่าคุณเป็นโรคเกาต์ "โรคของราชา" แต่ผมอยากให้คุณได้ตระหนักว่าไม่ว่าคุณจะอยู่ใน ประเทศใด ชนชั้นไหน ฐานะเป็นอย่างไร สาขาอาชีพอะไร คุณก็มีโอกาสเป็นโรคเกาต์ และทุกข์ทรมานจากการปวดเกาต์ได้เช่นกัน






ภาพของกษัตริย์เฮนรี่ที่แปดที่เอามาให้ได้ดูกันก็เป็นภาพที่บอกใบ้ถึงอะไรบางอย่าง??
•ท่านเป็น "คนอ้วน"
•ถือก้อน "เนื้อสัตว์"
•แก้วไวน์ "แอลกอฮอล"
(ทั้งสามอย่างเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคเกาต์)

วันนี้ขอพอเท่านี้ก่อน ไว้จะมาเล่าเรื่องโรคเกาต์ที่น่าสนใจให้ฟังอีก เข้ามาคุยกันติชมให้กำลังใจ ให้คำแนะนำกันได้นะครับ และขอส่งท้ายด้วยคำสอนเตือนใจที่ดีที่สุด

"ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ"
                                     -- พระพุทธเจ้า

ข้อมูลจากเวบ health.com

ข้อมูลจากเวบ articles.mercola.com

WWW.FACEBOOK.COM/GOUTGARDEN
WWW.GOUTGARDEN.COM
LINE: GOUTGARDEN
TEL: 0802372228, 0825221116



วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2559

GoutGarden.com สวัสดีครับ
Welcome to GoutGarden

GoutGarden สวัสดีทุกๆคนครับ

สวัสดีครับ ! เพื่อนๆที่เป็นเกาต์ทุกคน ขอออกตัวก่อนเลยละกันว่านี่เป็นเว็บไซท์ที่เกิดขึ้นมาจากความอยากที่จะหาที่สักที่ ไว้รวบรวมเรื่องราว ความรู้ เทคนิคต่างๆในการดูแลรักษาอาการเกาต์ ทั้งจากที่ผมเคยอ่านหนังสือ เคยคุยจากประสบการณ์ของคนที่เป็นเกาต์แล้วดูแลรักษาตัวเองอย่างดี และจากความรู้ที่ผมเคยไปเรียนเกี่ยวกับภูมิปัญญาที่น่าสนใจในการดูแลรักษาอาการเกาต์ที่ประเทศญี่ปุ่น ไหนๆก็ไหนๆเอาเป็นว่าผมทำมันไว้ในเว็บไซต์เลยละกัน แถมยังจะได้แบ่งปันกับเพื่อนๆคนที่เป็นเกาต์ท่านอื่นๆ หรือคนที่ต้องช่วยดูแลคนที่เป็นเกาต์ได้ด้วยไปเลยครับ

สำหรับเรื่องราวดีๆที่จะนำมาเก็บสะสมลงเอาไว้นี้ คงต้องบอกไว้ว่าผมก็เป็นแค่มนุษย์คนหนึ่งล่ะครับ ส่วนตัวผมไม่ได้เป็นเกาต์ แต่ศึกษาหาความรู้เพื่อช่วยดูแลคุณพ่อตาที่เป็นเกาต์ เพราะภาพที่ผมจำขึ้นใจตอนที่เห็นพ่อตาอาการเกาต์กำเริบ เดินลงบันไดสองขั้นยังไม่ไหวต้องลากเท้าลงมา อุ้มลูกสาวผมซึ่งเป็นหลานรักก็ไม่ไหว ไปออกกำลังกายก็ไม่ไหว ทำงานก็ลำบาก ความสุขหายไปจากชีวิต ทนทุกข์ทรมารกับอาการปวดเกาต์ที่นิ้วโป้งเท้าด้านขวา บวมเป่ง ปวด แดง ร้อน เรื่องราวอาจมีบ้างที่คิดเอาเอง อาจมีบ้างที่จำเค้ามาแล้วเอามาเล่า รายละเอียดแน่นบ้างเบาบ้างก็อย่าได้ซีเรียสเลยนะครับ

ยังไงซะผมหวังว่า GoutGarden แห่งนี้จะเป็นแหล่งแบ่งปันความรู้สำหรับการดูแลรักษาอาการเกาต์ รวมไปถึงหนังสือเกี่ยวกับโรคเกาต์ที่น่าสนใจ ทั้งสายแพทย์ทางเลือก การดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน และแพทย์แผนปัจจุบัน ทั้งหลายเพื่อเพื่อนๆชาวเกาต์การ์เด้นทุกท่านไม่มากก็น้อยนะครับ (แต่สงสัยจะเน้นไปทางแรกกับทางที่สองเพราะเป็นความชอบส่วนตัวนะครับ) ผมอยากทำสิ่งนี้เพื่อตอบแทนพระคุณที่พ่อตาดูแลผมกับภรรยาเป็นอย่างดี คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการดูแลท่านให้สุขภาพดีและมีความสุขในชีวิตไปด้วย และถ้าได้แบ่งปันความรู้ให้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆไปด้วยก็จะดีใจมากครับ ดีร้ายยังไง ติชม หรือแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะครับ...ขอบคุณครับ

www.facebook.com/goutgarden
www.goutgarden.com
Line: goutgarden
Tel: 0802372228, 0825221116